Article Archives | Geekcon Valley

SEO คืออะไร? มือใหม่เข้าใจง่ายๆ เริ่มที่นี่

SEO คืออะไร - Geekcon1

กลยุทธ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำการตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบันก็คือการทำ “SEO” ที่มีการแข่งขันที่สูงและมีความยากเป็นอย่างมาก หากเริ่มต้นแบบผิดวิธีก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นได้ แล้วเราควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี? ในวันนี้ Geekcon Valley จะมาแชร์แนวทางปูพื้นฐานในการเริ่มต้นทำ SEO อย่างง่ายๆ ฉบับมือใหม่กันค่ะ

เรามาเริ่มต้นด้วยคำถามเบสิกเลยว่า “SEO คืออะไร” SEO เป็นคำย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” เป็นกระบวนการที่ช่วยให้เว็บไซต์ของเราปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (เราเรียกกันว่า SERPs : Search Enging Result Pages) อย่างเช่น Google, Bing หรือ Yahoo โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาใดๆ เลย

การทำ SEO ที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็น (Impression) และเพิ่มปริมาณการเข้าถึง (Clicks) จากการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณจากผู้ใช้ที่ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือบริการที่คุณนำเสนอนั่นเอง ยิ่งเราทำอันดับ (Ranking) ได้ดีมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่กล่าวมาได้มากขึ้นค่ะ

ในการทำ SEO มีองค์ประกอบอยู่หลากหลายส่วนด้วยกัน ซึ่งก็จะมีความยากง่ายต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการของผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO แต่สำหรับมือใหม่แล้ว Geekcon จะขอแนะนำองค์ประกอบเบื้องต้นที่ควรรู้จักดังต่อไปนี้

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการทำ SEO เลยทีเดียวนั่นก็คือ On-page ซึ่งเป็นวิธีการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ หรือ Contents ภายในเว็บไซต์ของเราเองให้ดูน่าสนใจ และตอบโจทย์กับผู้ค้นหาอย่างชัดเจนถูกต้อง อย่างเช่น

  1. การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องในเนื้อหา : เช่น เราจะเขียนบทความเรื่อง SEO ก็ควรที่จะต้องมี คีย์เวิร์ดคำว่า SEO และคีย์เวิร์ดอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยเป็นต้นฯ
  2. ใช้ Title และ Meta Description ที่น่าสนใจ : Title เปรียบเสมือนหน้าร้าน หรือหน้าสินค้าของเรา ถ้าไม่น่าดึงดูดหรือมีความน่าสนใจก็ยากที่จะมีคนเข้าชมหรือเลือกซื้อ ในส่วนของ Description ก็คือคำอธิบายสรรพคุณอย่างสั้น กระชับเพื่อให้คนค้นหาสนใจและเข้าชมเว็บไซต์หรือสินค้าของเราค่ะ เพราะฉะนั้นต้องเขียนทั้งสองอย่างให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้เพิ่มความน่าสนใจนั่นเอง
  3. ใช้หัวข้อ (Heading Tags) อย่างถูกต้อง : ในเนื้อหาเราควรกำหนด และแบ่งหัวข้อออกอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถอ่าน เข้าใจได้ง่าย โดยหัวข้อที่นิยมใช้จะเริ่มต้นด้วย H1 เสมอ ตามด้วย H2 , H3 สำหรับหัวข้อรองลงมาตามลำดับความสำคัญ
  4. การเพิ่มคำอธิบายภาพ (Alt Text) : การทำ SEO ที่ดี เราควรมีรูปภาพประกอบเนื้อหาด้วย และไม่ควรลืมที่จะใส่คำอธิบายไว้ในรูปภาพด้วยทุกครั้งก็คือ (Alt Text : Alternative Text) เพื่อที่จะทำให้ Robot ของ Search Engine เข้าใจว่ารูปภาพนี้คืออะไร เพราะหากเราไม่ได้ใส่ไว้เขาก็จะไม่รู้นั่นเอง (มีผลเกี่ยวข้องกับการติดอันดับของ SERP Feture ด้วยนะ)
  5. สร้างลิงก์ภายใน (Internal Links) : เป็นการสร้างลิงก์เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ในกรณีที่เรามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อให้คนที่เข้าชมเว็บไซต์สามารถไปยังเรื่องต่อไปได้ง่าย

เรื่องต่อมาเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และต้องวางแผนการทำให้ดีมากๆ เพราะมันเกี่ยวกับเว็บไซต์อื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ของเรา การทำ Off-page คือการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์ของเรามากขึ้น ช่วยเพิ่มลูกค้า หรือคนเข้าชมเว็บไซต์ ช่วยในเรื่องของการจัดอันดับบน Google หลักๆ ประกอบด้วยดังนี้

  1. สร้างลิงก์ย้อนกลับ (Backlinks) จากเว็บไซต์อื่น : การสร้างลิงก์แบบนี้ให้อธิบายง่ายๆ ก็เหมือนกับเรากำลังประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักเรานั่นเองค่ะ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เช่น Webboard , Guestpost หรือPBN (Private Blog Network แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นทำ SEO ด้วยตนเอง ตรงนี้ขอไม่แนะนำให้ลองเองก่อนนะ เพราะหากทำผิดพลาดขึ้นมาจะส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ในหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมองเห็น อันดับที่ลดลง หรือร้ายแรงสุดก็คือโดนลงโทษจาก Google (Google Penalty)
  2. การโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย : จะมีความคล้ายกับการทำ Backlinks เพียงแต่ว่าการทำบน Social media จะเป็นลักษณะการโปรโมตที่ปลอดภัย และมีคุณภาพเฉพาะทางมากกว่า แต่ก็ควรเลือกโซเชียลที่เกี่ยวข้องกับเราด้วยนะ อย่างเช่น Facebook , Tiktok เป็นต้นฯ
  3. การแลกลิงก์ (Link Exchange) : เป็นการแลกเปลี่ยนลิงก์ซึ่งกันและกัน ซึ่งข้อดีก็คือเราได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพเข้ามาหาเรา และอีกฝ่ายก็ได้ด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้มีอันดับที่เพิ่มขึ้น

องค์ประกอบสุดท้ายที่อยากแนะนำก็คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ และรองรับ SEO มากที่สุด โดยหัวข้อนี้จะเกี่ยวข้องกับทาง Programer / Deverloper ที่สามารถแก้ไขปรับแต่งเว็บไซต์ได้นั่นเอง ซึ่งหลักๆ แล้วจะเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้

  1. ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ : ยิ่งเราสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีการใช้งานที่เร็วได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีต่อผู้ใช้ และ Google ด้วย
  2. ทำให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile-Friendly) : นอกจากความเร็วแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ Google เน้นให้ความสำคัญเลยก็คือ การรองรับอุปกรณ์มือถือ ซึ่งอิงจากพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนไปของผู้คน หากเราออกแบบเว็บไซต์ที่ไม่ซัพพอร์ทเรื่องนี้ Google เองก็อาจจะลดความสำคัญของเว็บไซต์เราได้
  3. การใช้ SSL เพื่อความปลอดภัย (HTTPS : Hypertext Transfer Protocol Secure) : การใช้ Protocol นี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และช่วยทำให้ผู้ชมเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบันการออกแบบเว็บส่วนมากจะเป็นระบบนี้กันอยู่แล้ว
  4. สร้างแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap.xml) และไฟล์ robots.txt : เรื่องนึงที่คนสร้างเว็บไซต์ควรทำก็คือการทำ Sitemap และ ไฟล์ robots เพื่อเป็นการบอกให้ Search Engine ทราบและเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย และไวขึ้น ส่งผลในเรื่องของการจัดทำดรรชนี (Indexing) ของเว็บไซต์
  5. ออกแบบโครงสร้างข้อมูล (Structured Data) และ UX/UI : เพื่อช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น รวมถึงการออกแบบ UX/UI ที่ดีเพื่อทำให้เว็บไซต์ใช้งานได้ง่าย

สรุปส่งท้าย การเริ่มต้นทำ SEO สำหรับมือใหม่อาจมองเป็นเรื่องที่ดูยุ่งยาก และการวัดผลที่ใช้เวลานาน แต่หากค่อยๆ เริ่มศึกษาและลงมือทำทีละนิด และทำอย่างถูกต้องใจเย็นๆ ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นกันค่ะ

แต่! หากไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี ที่ Geekcon Valley เรามีบริการทำ SEO ครบวงจร รวมถึงการวางแผนการวิเคราะห์ เจาะลึกกลยุทธ์ที่เหนือกว่าคู่แข่งด้วยเครื่องมือโซลูชันเฉพาะจาก Pi Datametrics สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ