Sitemap คืออะไร จำเป็นต้องมีหรือไม่?

ในการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยคือการทำ Sitemap! แล้วมันคืออะไร ถ้าหากไม่ทำจะเป็นอย่างไร วันนี้ที่ Geekcon Valley เรารวมคำตอบไว้ให้แล้ว
1.Sitemap คืออะไร?
Sitemap เปรียบเสมือนแผนผังโครงสร้างของเว็ปไซต์ว่ามีหน้าเพจไหนบ้างบนเว็ป และยังช่วยทำให้ผู้ค้นหา กับ Search Engine เข้าถึงหน้าต่างๆได้ง่ายอีกด้วย
2.Sitemap มีกี่ประเภท?
โดยทั่วไปแล้ว Sitemap สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ 1. HTML และ 2.XML โดย
- HTML Sitemap : เป็นหน้าที่มักอยู่ในส่วนท้ายของเว็ปไซต์เสมอ โดยจะมีข้อมูลของหน้าเพจแสดงอยู่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาหน้าที่ต้องการจากตรงนี้ได้
- XML Sitemap : XML ย่อมาจาก Extensible Markup Language เป็นโครงสร้างภาษาที่ออกแบบมาใช้สำหรับ Search Engine Bot ให้เข้าถึงหน้าเพจทั้งหมดที่อยู่ภายในเว็ปไซต์ได้ง่ายขึ้น เพื่อที่จะได้รวบรวมข้อมูลไปทำดัชนี (Index) ต่อไป
3.Sitemap ทำงานอย่างไร?
ขั้นตอนการทำงานในเบื้องต้นของ Sitemap จะทำโดยการแจ้งหน้า Url ทั้งหมดที่มีในเว็ปไซต์ของเราส่งไปยัง Robot Search Engine เพื่อให้ Bot วิ่งเข้ามาเก็บข้อมูลนั่นเอง
4.องค์ประกอบของ Sitemap
องค์ประกอบของ Sitemap ที่ดีประกอบด้วย 3 ส่วนหลักดังต่อไปนี้
- <urlset> เป็นแท็กที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดของ Sitemap เสมือนเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของข้อมูล
- <url> เป็นแท็กที่ครอบคลุมข้อมูลของแต่ละ Url โดยเฉพาะ ซึ่งโดยส่วนมากในแท็กชุดนี้ก็จะมีข้อมูลอย่างเช่น ชื่อ Url , วันที่อัปเดตข้อมูลล่าสุด , ความถี่ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูล หรือ ความสำคัญของ Url นี้
- <loc> เป็นการระบุชื่อของ Url โดยจะอยู่ภายในแท็ก <url> อีกที
นอกจากนี้ก็ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ เสริมด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้ Search Engine ได้เข้าใจถึงเว็ปไซต์ของเรามากยิ่งขึ้น อย่างเช่น
- <lastmod> เป็นการระบุวัน/เดือน/ปี และเวลา เพื่อแจ้งกับทาง Bot ว่ามาเก็บข้อมูลหน้านี้ตอนไหน
- <priority> เป็นการระบุความสำคัญของหน้าเว็ปนั้นๆ โดยจะเป็นการกำหนดค่าตัวเลขตั้งแต่ 0.0 ถึง 1.0 ซึ่งหมายความว่าหน้านี้มีความสำคัญมากที่สุด
Sitemap ในปัจุบันยังจำเป็น อยู่ หรือ ไม่?
ในปัจจุบันถึงแม้ว่าการเก็บข้อมูล (Crawl) ของ Search Engine จะทำได้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน รวมถึงการทำดัชนี (Index) แต่การมี Sitemap.xml ที่ดีก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ เพราะจะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ Google เข้าใจและจัดเก็บข้อมูลได้ดียิ่งขึ้นซึ่งก็มีข้อดีดังต่อไปนี้
- เว็ปไซต์ขนาดใหญ่ Sitemap.xml เหมาะกับเว็ปไซต์ที่มีขนาดใหญ่ หรือเว็ปที่มีการอัปเดตเนื้อหาบ่อยๆ อย่างเช่นข่าว หรือ E-commerce เพราะจะช่วยให้ Bot มีการเข้าถึงและจัดเก็บข้อมูลได้ไวและถูดต้องยิ่งขึ้น
- เว็ปไซต์ที่ซับซ้อน ในบางเว็ปไซต์อาจจะออกแบบหน้าที่ทำให้ Bot เข้าถึงยาก การทำ Sitemap.xml ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้ Bot เข้าถึงหน้านั้นๆ ได้ง่ายขึ้น
- เว็ปไซต์ใหม่ การสร้าง Sitemap ให้เว็ปไซต์ใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ Google รู้จักเราได้ไวขึ้น
- Sitemap ไม่ได้เก็บแค่เฉพาะ URL เท่านั้น แต่ยังสามารถเก็บเนื้อหาอื่นๆ ได้อย่างเช่น รูปภาพ, วิดีโอ ซึ่งทำให้การจัดทำดัชนีของ Google นั้นง่ายขึ้น
ถ้าไม่มี Sitemap จะเกิดอะไรขึ้น?
หากไม่มี Sitemap ตัวของ Bot ก็อาจจะใช้เวลานานกว่าปกติในการค้นพบเว็ปไซต์คุณ ซึ่งส่งผลให้เว็ปไซต์คุณนั้นใช้เวลานานกว่าจะแสดงในหน้าของ Google รวมถึงส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานที่อาจจะหาหน้าที่ต้องการไม่เจอ

Sitemap กับ SEO
การมี Sitemap.xml ที่ดีก็มีส่วนช่วยในเรื่องของการทำ SEO ได้ดังต่อไปนี้
- ดัชนี (Indexing) Bot จะใช้ Sitemap.xml เป็นข้อมูลในการเก็บรวบรวม Url ทั้งหมดในเว็ปไซต์ ส่งผลให้การเก็บ Index นั้นทำได้รวดเร็วกว่าเว็ปไซต์ที่ไม่มี Sitemap.xml
- Google Bot เข้าใจเว็ปไซต์ของเรามากขึ้น เพราะการมี Sitemap ที่ดีจะช่วยทำให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างของเว็ปไซต์เราได้ง่ายขึ้น และยังส่งผลในเรื่องของการจัดอันดับบน Google ได้ดีในระยะยาว
- เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูล (Crawl) การมี Sitemap ที่ดีจะยิ่งช่วยให้ Google Bot เข้าถึงเว็ปไซต์ของเราเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ได้ Crawl อย่างไม่มีเหตุผล
- เพิ่มโอกาสในการแสดงผลการค้นหา ในการที่ Bot เข้าถึงเนื้อหาในเว็ปไซต์ได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่หน้าเหล่านั้นจะถูกนำไปพิจารณาในการแสดงผลบน Google มากขึ้น
สรุป ถึงแม้ว่า Google จะมีความฉลาดมากขึ้นเพียงใด แต่ Sitemap.xml ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ดีเพื่อช่วยให้การทำ SEO เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังส่งผลดีต่อการจัดอันดับบน Search Google อีกด้วย แนะนำให้ทำทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นเว็ปไซต์แบบไหนเพื่อช่วยให้เว็ปไซต์ของเราดูดี มีคุณภาพทั้งในสายตาของ Google รวมถึงผู้ใช้งานนั่นเอง